![]() |
Vegemite อาหารประจำชาติออสเตรเลีย ภาพจับหน้าจอจากยูทูบ เวจจี้ไมท์ |
พูดถึงอาหารประจำชาติออสเตรเลีย ถามว่าอาหารประจำชาติออสเตรเลียคืออะไร ? ทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันโดยไม่มีใครโต้แย้งเลยว่า อาหารประจำชาติของออสเตรเลียนั่นก็คือ "Vegemite"
แล้วเวจจี้ไมท์ที่เป็นอาหารประจำชาติคู่บ้านคู่เมืองของออสเตรเลียเนี่ยมันคืออะไรกันนะ ?
เวจจี้ไมท์ ก็คือครีมที่ใช้ทาขนมปัง คนออสซี่จะกินเวจจี้ไมท์ทาขนมปังปิ้งเป็นอาหารเช้าเกือบทุกวัน หรืออาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สิ่งแรกที่ชาวออสซี่เอาเข้าปากหลังจากตื่นนอนก็คือ เจ้าเวจจี้ไมท์ทาขนมปังนี่แหละ และนอกจากกินเกือบทุกวันแล้วยังมีอาการที่เรียกว่าติดเวจจี้ไมท์อีกด้วย
แล้วเวจจี้ไมท์คืออะไรกันแน่ ? เวจจี้ไมท์ก็คืออาหารที่ผลิตมาจากกากที่เหลือจากการผลิตเบียร์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่ามันมีคุณค่าทางอาหารสูงมากทีเดียว นำกากนั้นมาผสมกับผักเซลารี่และหอมใหญ่ โดยมีสูตรลับที่ไม่เคยมีการเปิดเผย ผสมกันออกมาได้เป็นเจ้าครีมสีดำ ๆ แบบนี้ละค่ะ
![]() |
ครีมทาขนมปัง Vegemite ภาพจับหน้าจอจากยูทูป เวจจี้ไมท์ |
เนื้อของเวจจี้ไมท์จะเป็นครีมสีดำ ซึ่งมันจะมีกลิ่นที่เหม็น บอกเลยว่าเหม็นมากค่ะ ถ้าคนไทยดมเวจจี้ไมท์จะมีความรู้สึกแบบฝรั่งดมกะปิ แบบนั้นเลย บางคนบอกกลิ่นเหมือนซุปไก่สกัด
ส่วนรสชาติบอกได้เบื้องต้นว่ามันมีรสชาติเค็ม ออกเค็ม ๆ ขมนิด ๆ แถมยังมีรสเปรี้ยวหน่อย ๆ ด้วยค่ะ สำหรับตัวฉันเอง ถึงแม้ว่าจะอยู่ที่ออสเตรเลียมานานแต่ก็ไม่ค่อยได้กินเวจจี้ไมท์ (เพราะติดกินข้าวไข่ดาวเป็นอาหารเช้ามากกว่า) แต่ว่าจะต้องทำเป็นประจำเพราะว่าคุณลูกชายติดเวจจี้ไมท์เหมือนกับคนออสซี่ทั่ว ๆ ไปนะสิคะ
![]() |
เด็กชาวออสซี่กิน Vegemite ทาขนมปังปิ้งเป็นอาหารเช้า ภาพเคยเผยแพร่ในเฟซบุ๊ก Yuy Anatta |
สำหรับวิธีกินเวจจี้ไมท์ ถึงแม้จะมีแสดงในหนังโฆษณาว่าสามารถควักจากกระปุกใส่ปากได้เลย แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นใครทำแบบนั้นจริง ๆ ซะทีนะ วิธีกินที่นิยมกันก็คือใช้ทาขนมปังปิ้งค่ะ
ขั้นแรกเราปิ้งขนมปังก่อน หลังจากนั้นก็เอามาทาเนยหรือมาการีน เสร็จแล้วก็ทาเวจจี้ไมท์ทับลงไปบาง ๆ ไม่ต้องทาเยอะนะคะ ทาแค่บางๆ อย่าทาเยอะแบบในโฆษณานะคะ เพราะในโฆษณาเขาทำให้ดูดี เขาทาจนท่วมแผ่นขนมปัง แบบนั้นเนี่ยบอกเลยว่าจะกินไม่ได้ค่ะ เพราะว่ามันเค็มไงคะ ถ้าทาเยอะนี่มันจะเค็มปี๋จนกินไม่ได้ค่ะ
![]() |
Vegemite ทาขนมปังปิ้ง ภาพจับหน้าจอจากคลิปยูทูบ เวจจี้ไมท์ |
เวจจี้ไมท์ถูกคิดค้นขึ้นโดย ดร. ไครอล คัลลิสเตอร์ นักเคมีและผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ชาวเมลเบิร์น, ออสเตรเลีย บ้านเดียวกับฉันนี่ละค่ะ ซึ่งได้คิดค้นสูตรครีมทาขนมปังรสชาติดี มีสีดำ ออกมาวางขายในตลาดเป็นครั้งแรกที่ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ปี 1922 ก็นับว่าเป็นเวลา 98 ปีแล้วนะคะที่เวจจี้ไมท์อยู่คู่บ้านคู่เมืองคู่คนออสซี่มาค่ะ
สำหรับชื่อของเวจจี้ไมท์นั้น ได้มาจากการเปิดประกวดตั้งชื่อชิงรางวัล ซึ่งมีผู้ส่งชื่อเขาประกวดมากมายจนไม่รู้จะเลือกชื่อไหนดี สุดท้ายต้องใช้วิธีการจับฉลาก และก็ได้ชื่อ "Vegemite" ที่ตั้งโดยสองพี่น้อง ฮิลด้าและลอเรล อาร์มสตรอง ซึ่งต่อมาเด็กหญิงก็ได้ฉายาว่า "เดอะ เวจจี้ไมท์ เกิร์ล" จนตลอดชั่วชีวิตของเธอทั้งสองเลยทีเดียว
มีเรื่องเล่าอีกนะคะว่า ในการแข่งขันโอลิมปิกเมื่อปี 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเป็นเจ้าภาพ ณ ตอนนั้น ประเทศจีนห้ามนักกีฬานำอาหารเข้าประเทศ โดยให้เหตุผลว่า จีนได้จัดเตรียมอาหารทุกอย่างไว้ให้นักกีฬาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่ากันว่าในคราวนั้นเนี่ย ถึงขนาดทำให้นักกีฬาของออสเตรเลียแทบจะลงแดงตายกันเลยทีเดียว ด้วยความที่ติดเวจจี้ไมท์ และไม่สามารถพกมันไปกินได้นั่นเองค่ะ
ถ้าคุณมีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศออสเตรเลีย แล้วมีคนออสซี่ต้อนรับคุณด้วยขนมปังปิ้ง ทาครีมสีดำ ๆ เอามาให้ ขอแนะนำว่าให้กินเลยนะคะ เพราะนั่นเป็นการแสดงมารยาทอย่างดี ที่จะทำให้คนออสซี่ประทับใจแล้วก็รักคุณด้วยละค่ะ เพราะว่าเวจจี้ไมท์เป็นอาหารประจำชาติที่เขาชอบ, เขากิน, และเขาติดกันจริง ๆ ไม่ใช่ว่าเอามาให้กินเพราะว่าแกล้ง แบบที่คนไทยชอบแกล้งฝรั่ง โดยการเอากะปิหรือปลาร้าให้ฝรั่งกิน อะไรประมาณนั้น ซึ่งไม่ใช่แบบนั้นเลยนะคะ นี่เป็นอาหารอย่างดีที่เขาจะใช้ต้อนรับคุณ และเขาอยากให้คุณกินอาหารเหมือนกับเขาค่ะ
หรือว่าถ้าคุณรู้จักคนออสซี่ที่อยู่ในประเทศไทยหรืออยู่ต่างประเทศ แล้วคุณไปเที่ยวออสเตรเลีย ถ้าคุณซื้อเวจจี้ไมท์กลับไปฝากเขา รับรองว่าเขาจะรักคุณมาก ๆ เลยละค่ะ
แต่ตอนนี้การเดินทางยังไม่สะดวกนัก ลองหาซื้อเวจจี้ไมท์ทางออนไลน์กันก่อนนะคะ ตามลิงก์นี้ค่ะ ซื้อเวจจี้ไมท์ที่นี่
และนี่ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารประจำชาติออสเตรเลียที่ฉัน วันนั้นเจอนี่มีมาฝากกันในวันนี้ เวจจี้ไมท์ ครีมทาขนมปังสีดำประจำชาติออสเตรเลียค่ะ
พาชิมเวจจี้ไมท์ อาหารประจำชาติออสเตรเลีย
Writer
เรียนและรักษ์ภาษาไทย ชอบออกไปดู ไปดม ไปชมโลกด้วยความหลงใหลแล้วนำกลับมาเล่า
เจ้าของผลงาน E-Book
ติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ที่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น